Okja (อ่านว่า โอค-จา ไม่ใช่ โอ-เค-จ้า) เป็นหนังของ เว็บหนังHD Netflix กำกับโดยผู้กำกับเกาหลี Joon-ho Bong (จาก Snowpiercer) หนังมีพูดทั้งภาษาอังกฤษและภาษาเกาหลี โดยมีนักแสดงฮอลลีวูดชื่อดังมาร่วมวงอย่างคับคั่ง ได้แก่ Tilda Swinton, Paul Dano, Steven Yeun, Lily Collins และ Jake Gyllenhaal (รวมถึงอาตี๋หล่อนักเบสบอลจาก Train to Busan ด้วย)
Okja ภาพยนตร์แนว ผจญภัย Adventure ดราม่า Drama เรื่องย่อ ลูซี่ มิแรนโด (ทิลด้า สวินตัน) ซีอีโอสาวแห่งมิแรนโด คอร์ปอเรชั่น ค้นหาแนวทางในการแก้ปัญหาอาหารขาดแคลนในชีวิตจริงที่เหมือนนวนิยายวิทยาศาสตร์นี้ ทีมของเธอได้ออกแบบการปรับเปลี่ยนพันธุกรรมของซุปเปอร์หมู สัตว์ประหลาดหนึ่งเดียวที่น่าจะทำให้พวกเขาเสียเวลาน้อยที่สุด แล้วหมดเปลืองกับการให้อาหารน้อยที่สุด แถมมันยังรสชาติโคตรสุดยอดอีกด้วย สิ่งมหัศจรรย์นั้นคือ โอคจา สัตว์ประหลาดที่เติบโตขึ้นมาภายใต้การเลี้ยงดูของชาวนาคนหนึ่งในประเทศเกาหลีใต้ ที่ซึ่งมันจะทำให้เราได้พบกับหนูน้อย มีจา (อันซอฮยอน) เด็กสาวผู้ผูกพันกับ โอคจา เธอต้องเริ่มออกเดินทางเพื่อภารกิจปกป้องเพื่อนรักของเธอ เมื่อ มิแรนโด คอร์ป เกิดอยากจะครอบครองสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวนี้ขึ้นมา
หนังเริ่มต้นด้วยโครงการของบริษัทมิรานโด ที่ซึ่งลูซี่ (Tilda Swinton) เป็น CEO ในปัจจุบัน เธอเห็นว่าผู้บริโภคต่อต้านอาหารที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรม (GMO) จึงคิดค้นโปรเจ็กต์ที่จะสร้างภาพลวงตาผู้บริโภคขึ้นมา โดยอ้างว่าบริษัทตอนนี้มีหมูพันธุ์ใหม่ซึ่งเป็นหมูยักษ์ บริษัทได้ส่งหมูยักษ์ 26 ตัวไปให้คนเลี้ยงหมูทั่วโลก เพื่อให้พวกเขาเลี้ยงดูหมูยักษ์เป็นเวลา 10 ปี ภาพตัดมาที่ 10 ปีต่อมา ในชนบทประเทศเกาหลีใต้ เราได้รู้จักกับมีจา (Seo-hyun Ahn) เด็กหญิงที่อาศัยอยู่กับปู่ของเธอท่ามกลางธรรมชาติ พวกเขาได้เลี้ยงดูโอคจา หมูยักษ์ที่บริษัทมิรานโดให้มานั่นละ มีจากับโอคจาอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่มีจาอายุเพียง 4 ขวบ ถือเป็นเพื่อนสนิทคนสำคัญเลย แต่แล้วมีจาก็ต้องเจอเรื่องช็อก เมื่อจู่ๆ ตัวแทนจากบริษัทมิรานดา สาขาเกาหลีใต้ก็มาขอตัวโอคจาคืนตามกำหนดการ มีจาเข้าใจมาตลอดว่าปู่ของเธอซื้อโอคจามาจากบริษัทมิรานดาแล้ว ก็ไม่พอใจอย่างมาก เธอจึงตัดสินใจคว้าเงินเก็บแล้วออกเดินทางไปกรุงโซล เพื่อตามโอคจากลับมา ก่อนที่โอคจาจะถูกส่งตัวไปนิวยอร์ก เพื่อเข้าการประกวดหมูยักษ์ที่จัดโดยบริษัทมิรานดา เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดูดีให้บริษัท
หนังมีความยาวประมาณ 2 ชั่วโมง รวม End Credit นิดหน่อย ซึ่ง 2 ชั่วโมงนี้ดูเพลินมากถึงมากที่สุด ไม่มีช่วงไหนที่รู้สึกว่าน่าเบื่อเลยอะสำหรับเรา ตอนแรกเราคิดว่าหนังจะดูยาก ตามสไตล์หนังรางวัล แต่ปรากฏว่าหนังเสพง่ายมาก แม้ว่าประเด็นที่เล่นจะละเอียดละอ่อนและซีเรียส แต่หนังก็ผสมมันลงไปในเส้นเรื่องได้อย่างกลมกลืน ทำให้ระหว่างดูเราก็เอาใจช่วยให้มีจาสามารถทำภารกิจสำเร็จ นอกเหนือไปกว่านั้น หนังก็ทำให้เราทึ่งกับตัวมีจาในหลายๆ ตอน ทำให้เห็นว่าเด็กจากชนบทไม่ได้ปวกเปียกนะ เอาเข้าจริงมีจามีไหวพริบดีมาก เอาตัวรอดเก่ง และกล้าได้กล้าเสี่ยงสุดๆ ฉากที่เราชอบคือฉากปีนรถบรรทุกลอดอุโมงค์ ตรงนั้นคือร้องโหวววเลย
ในฝั่งของซีจีตัวโอคจานั้นทำได้เนียนมาก เหมือนมีตัวตนอยู่จริงๆ ส่วนฉากที่เราชอบคือชนบทบ้านเกิดของมีจา ที่ดูเขียวขจีรอบทิศรอบทาง เป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง ไม่แปลกใจว่าทำไมโอคจาถึงได้ตัวใหญ่กว่าเพื่อนๆ คงเพราะถูกเลี้ยงดูตามธรรมชาติ ได้วิ่งเล่นในที่กว้าง สูดอากาศบริสุทธิ์ สรุปความรู้สึกของเรา เราดูแล้วเราได้ฟีลเหมือนดู Pete’s Dragon ผสมองค์บาก ดูสนุก บันเทิง หรรษา ครบรส หลากอารมณ์ เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี ไม่มีเบื่อ (แต่ก็มีฉากรุนแรงบ้างเล็กน้อย เด็กกับคนรักสัตว์อาจมีสะเทือนใจบ้างนิดหน่อย เรานี่บางฉากใจจะขาด) หนังเรื่องนี้จึงถือเป็นฤกษ์งามยามดีที่สมาชิกในครอบครัวหรือผองเพื่อนจะเปิด Netflix ที่บ้าน และ enjoy watching ร่วมกันค่ะ