เอาเป็นว่าถ้าใครสนใจอยากหา หนังชนโรง ดี ๆ ดูสักเรื่องและพร้อมที่จะเสียน้ำตาให้กับเรื่องราวสุดกินใจเหล่านั้น วันนี้เราจะมาขอเอาใจ คนชอบหนังญี่ปุ่นแนวดราม่ากันสะหน่อย บอกได้เลยว่า ต้องเตรียมเช็ดชูไว้รอเลย สำหรับภาพยนตร์เรื่อง The Garden of Evening Mists
The Garden of Evening Mists ภาพยนตร์แนว โรแมนติก Romance ดัดแปลงมาจากนิยายในชื่อเดียวกันของ Tan Twan Eng กำกับโดย Tom Lin เรื่องราวของ ยุนหลิง ผู้ซึ่งได้รับความขมขื่นจากสงครามโลกครั้งที่สอง ในแหลมมลายู ที่แสวงหาสิ่งปลอบใจในเทือกเขา Cameron Highlands พบกับคนทำสวนลึกลับและดำเนินไปสู่ความรักที่ต้องห้าม
วันที่ 8 มีนาคม ปี 1941 ทัพญี่ปุ่นเข้าโจมตีดินแดนอันเป็นอาณานิคมมาลายาของอังกฤษ ไม่ถึงสองเดือน จักรวรรดิอังกฤษก็อพยพหลบหนีไป ประชาชนถูกทอดทิ้งทนทุกข์ภายใต้เงื้อมมือของชาวญี่ปุ่น ปี 1945 ญี่ปุ่นปราชัย ชาวอังกฤษก็กลับคือสู่ถิ่นเดิมและหมายสถาปนาขั้วอำนาจอีกครา แต่ประชาชนหายอมรับผู้เนรคุณแผ่นดินไม่ เป็นเหตุให้เกิดกลุ่มกบฏคอมมิวนิสต์ ลุกฮือหมายต่อต่านชาวอาณานิคม ความวุ่นวายจึงบังเกิดขึ้น จนประเทศตกอยู่ในภาวะฉุกเฉิน ท่ามกลางความโกลาหลนี้ มีบุรุษชาวญี่ปุ่นคนหนึ่ง ผู้ปลีกวิเวกไปอาศัยอยู่บนภูเขาสูงเสียดฟ้า ปี 1951 สถานการณ์ของสงครามโลกเริ่มคลี่คลาย แต่ความขัดแย้งระหว่างคอมมิวนิสต์กับอังกฤษยังคงคุกรุ่น ยุนหลิง หญิงสาวชาวมาลายัน เธอทำงานสอบสวนเชลยศึกทหารญี่ปุ่นให้กับอังกฤษ ขณะเดียวกัน เธอก็พยายามถามหาข้อมูลของชายญี่ปุ่นคนหนึ่งที่ชื่ออาริโตโมะ กระทั่งรู้ว่าปัจจุบันเขาปลีกวิเวกไปอยู่บนภูเขา ยุนหลิงใช้เส้นสายที่มีเพื่อเข้าถึงตัวเขาให้ได้ เมื่อถึงตีนเขา เธอถูกมองว่าเป็นสายลับให้กับคอมมิวนิสต์ เพราะทหารอังกฤษเห็นเอกสารมากมายที่เธอถือมาด้วย แต่โชคดีที่ สมิธ ชายที่เธอติดต่อมาหาเธอได้ทันเวลาพอดี สาเหตุที่ทหารชาวอังกฤษตรวจตราอย่างเคร่งครัดก็เพราะว่าบนป่าเขามีเหล่าคอมมิวนิสต์ซ่อนตัวอยู่เป็นจำนวนมาก
เมื่อเธอขึ้นไปถึงบนภูเขา ก็ได้พบกับชาวอังกฤษและชาวญี่ปุ่นมากมายที่มาพักผ่อนหย่อนใจกันในที่แห่งนี้ กว่ายุนหลิงจะเข้าพบกับอาริโตโมะได้ต้องผ่านหลายขั้นตอน ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะเขาไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ไม่เข้าสังคมและไว้ใจคนยาก สุดท้ายยุนหลิงก็ได้เข้าไปพบกับเขาในช่วงพลบค่ำ เธอพกเพียงรูปถ่าย 1 รูปเข้าไปในห้องของเขาด้วย พร้อมกับเล่าว่า ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 หมู่บ้านของเธอถูกทหารญี่ปุ่นบุกเข้าไปทำลายจนสิ้นซาก เหลือเพียงหญิงสาวในหมู่บ้านที่ถูกมัดตาและถูกจูงไปยังค่ายทหารกลางป่า ยุนหลินมีน้องสาววัย 19 ปี ก่อนที่จะมีสงครามเธอเป็นคนที่ชื่นชอบการแต่งสวนสไตล์ญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก เธอศึกษาด้วยตัวเองและเป็นแฟนตัวยกของอาริโตโมะ เพราะเขาคือนักจัดสวนอันดับหนึ่งของญี่ปุ่นเลยก็ว่า แต่พอสงครามเริ่มต้น ความฝันก็ต้องพังทหาร เธอถูกจับไปเป็นฮาเร็มให้กับทหารญี่ปุ่น ถูกข่มขืนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งในตอนนั้นยุนหลินหนีออกมาได้เพียงคนเดียว แต่เธอก็หลบตัวอยู่ในบริเวณค่ายเพราะไม่อยากทิ้งน้องสาวของตัวเอง น้องสาวของเธอสร้างโลกในจินตนาการขึ้นมาว่ากำลังอยู่ในสวนเพื่อให้รอดพ้นไปได้ในแต่ละวัน แต่เมื่อสงครามจบสิ้นน้องสาวของเธอก็ฆ่าตาย สาเหตุที่ยุนหลิงเดินทางมาหาอาริโตโมะก็เพราะว่าต้องการจะว่าจ้างให้เขาทำสวนเพื่อระลึกถึงน้องสาวของเธอ แต่ทว่าอาริโตโมะปฏิเสธอย่างเย็นชาและไล่เธอกลับลงเขาทันที เช้าวันต่อมา เขาเปลี่ยนใจ ซึ่งจะไม่ว่าจ้างทำสวนให้แต่เปลี่ยนมาสอนวิธีทำสวนให้กับเธอแทน ยุนหลิงตอบตกลง ซึ่งช่วงแรกเธอถูกใช้งานเยี่ยงทาส ทั้งให้ยกหิน แบกไม้ ร่วมกับคนสวน กระทั่งเวลาผ่านไป เขาก็เริ่มสอนวิธีการมองโลกให้ลึกซึ้ง กระทั่งทั้งคู่ก็เกิดเป็นความสัมพันธ์อันลึกซึ้ง
ปัญหาของการลืมและจดจำบาดแผลทางประวัติศาสตร์ เป็นประเด็นหลักที่ถูกถ่ายทอดไว้ในสวนฝันในม่านหมอก อันที่จริงเนื้อหาใน หนังญี่ปุ่น นวนิยาย เรื่องนี้ยังช่วยชี้แนะการคลี่คลายปมปัญหาดังกล่าวได้เป็นอย่างดี “ไม่มีคำพูดใดจะช่วยเยียวยาบาดแผลในจิตใจของฉันได้ หรือพาพี่สาวของฉันให้กลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง อะริโตโมะเข้าใจเรื่องนี้ เรื่องที่คนส่วนใหญ่มักจะไม่เข้าใจ”